8 วิธียืดอายุการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลให้คุ้มค่าที่สุด

8 วิธียืดอายุการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลให้คุ้มค่าที่สุด

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล เป็นหัวใจสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการพลังงานสำรองในยามฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่ไม่สามารถหยุดชะงักได้

ด้วยราคาที่สูงและความสำคัญในระบบธุรกิจ การดูแลเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ การบำรุงรักษาที่ถูกวิธีไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียหาย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องให้คุ้มค่าที่สุด

ในบทความนี้ ไทยรวมเทคจะพาคุณมารู้จัก 8 วิธียืดอายุการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว พร้อมแนะนำวิธีการบำรุงรักษาที่เหมาะสมเพื่อธุรกิจของคุณค่ะ

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาให้ทนทานและใช้งานได้ยาวนาน แต่ความยาวนานของอายุการใช้งานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญค่ะ

ทำไมต้องรู้ข้อมูลนี้? เพราะการรู้ว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของคุณมีอายุการใช้งานเท่าไรช่วยให้คุณวางแผนการบำรุงรักษาและงบประมาณได้ดีขึ้นค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณมั่นใจได้ว่ามีแหล่งพลังงานสำรองที่พร้อมใช้งานเสมอ

อายุการใช้งานทั่วไป

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลที่ได้รับการดูแลและใช้งานอย่างเหมาะสม สามารถมีอายุการใช้งานได้มากกว่า 30,000 ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน หากขาดการบำรุงรักษาหรือใช้งานไม่เหมาะสม อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่า 10,000 ชั่วโมง

ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน

  • คุณภาพของแบรนด์และการผลิต: เครื่องจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Cummins ที่ใช้อยู่ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล GENPACK มักมีความทนทานสูง
  • ขนาดและกำลังไฟฟ้า: การเลือกขนาดที่เหมาะสมช่วยลดภาระของเครื่องและยืดอายุการใช้งาน
  • การบำรุงรักษา: การตรวจสอบและซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอช่วยลดการสึกหรอ
  • สภาพแวดล้อม: การติดตั้งในพื้นที่ที่เหมาะสม ลดผลกระทบจากฝุ่น ความชื้น และความร้อน
  • คุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิง: น้ำมันคุณภาพต่ำอาจก่อให้เกิดการอุดตันและความเสียหายในระบบ

8 วิธียืดอายุการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล

1. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ

น้ำมันเครื่องมีบทบาทสำคัญในการหล่อลื่นชิ้นส่วนเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ ช่วยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอ หากระดับน้ำมันต่ำหรือสกปรก อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้อย่างรวดเร็ว การตรวจสอบน้ำมันเครื่องทุก 2-3 สัปดาห์ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน

วิธีตรวจสอบคือการดึง Dipstick ออกมาตรวจสอบระดับน้ำมัน หากน้ำมันมีคราบสกปรกหรือมีระดับต่ำ ควรเปลี่ยนหรือเติมน้ำมันใหม่ นอกจากนั้นควรใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

2. ใช้ของเหลวคุณภาพสูง

ของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำยาหล่อเย็น มีผลโดยตรงต่อการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำอาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น การอุดตันของหัวฉีดหรือการสะสมตะกอนในระบบเชื้อเพลิง ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องลดลงและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

เลือกน้ำมันเชื้อเพลิงเกรดพรีเมียมและตรวจสอบคุณภาพเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสที่เชื้อเพลิงเสื่อมสภาพ

3. ทดสอบโหลดแบงก์อย่างสม่ำเสมอ (Load Bank Test)

Load Bank คืออุปกรณ์ทดสอบระบบไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่ใช้จำลองโหลดไฟฟ้า เพื่อทดสอบแหล่งจ่ายไฟฟ้า เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโหลดการทำงานปกติ  

Load Bank ทำงานอย่างไร?

Load Bank จะสร้างโหลดจำลองขึ้นมา เพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานภายใต้สภาวะที่มีภาระ คล้ายกับการใช้งานจริง โดยจะค่อย ๆ เพิ่มโหลดขึ้นเป็นขั้น ๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อทดสอบว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถรับมือกับการเพิ่มขึ้นของโหลดได้หรือไม่ และยังคงทำงานได้อย่างถูกต้องเป็นระยะเวลานานหรือไม่  

ประโยชน์ของการทดสอบด้วย Load Bank

  • ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
  • จำลองสภาวะการใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามที่กำหนด
  • ป้องกันปัญหา Wet Stacking ซึ่งเกิดจากการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานที่โหลดต่ำเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ไม่หมด และเศษวัสดุต่างๆ ในระบบไอเสีย ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
  • ยืนยันว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

การทดสอบด้วย Load Bank ควรดำเนินการทดสอบปีละ 1-2 ครั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่ถูกต้อง

4. ป้องกันปัญหา Wet Stacking

Wet Stacking เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในเครื่องยนต์ดีเซล เมื่อเครื่องยนต์ทำงานโดยใช้กำลังไฟน้อยกว่า 30% ของกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่กำหนดไว้เป็นเวลานาน ทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำเกินไป และไม่สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้หมด  

สาเหตุของ Wet Stacking

  • การใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่โหลดต่ำเป็นเวลานาน เช่น การใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่มีการใช้ไฟน้อย หรือการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นเวลานานโดยไม่มีการใช้ไฟฟ้าเลย
  • การเลือกใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้เครื่องยนต์ทำงานที่โหลดต่ำ  

ผลกระทบของ Wet Stacking

  • เชื้อเพลิงที่เผาไหม้ไม่หมด จะสะสมในระบบไอเสีย ทำให้เกิดคราบเขม่า น้ำมัน และความชื้น อาจมีของเหลวไหลออกมาจากท่อไอเสีย หรือ Turbocharger
  • คราบเขม่า น้ำมัน และความชื้น ที่สะสมในระบบไอเสีย อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ เช่น หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง วาล์ว และ Turbocharger
  • ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง
  • อาจเกิดไฟไหม้ได้

วิธีป้องกัน Wet Stacking

  • เลือกใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่โหลดต่ำเป็นเวลานาน
  • ทดสอบการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วย Load Bank เป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานที่โหลดสูง และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม
  • ติดตั้งอุปกรณ์ “Artificial Load” หรือ “Supplemental Heat” เพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์  

Wet Stacking เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับเครื่องยนต์ดีเซลทุกชนิด รวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล ดังนั้น การดูแลรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอย่างถูกวิธี และการใช้งานอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหา Wet Stacking และยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

5. ทำ PM (Preventive Maintenance) เป็นประจำ

PM หรือ Preventive Maintenance คือการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน โดยเป็นการตรวจสอบ ซ่อมบำรุง และเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ ตามแผนงานที่กำหนดไว้ ก่อนที่จะเกิดปัญหาหรือความเสียหายขึ้น  

ความสำคัญของ PM สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล

  • ลดความเสี่ยงจากการเสีย: PM ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะทำงานได้อย่างถูกต้อง เมื่อต้องการใช้งาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน
  • ยืดอายุการใช้งาน: PM ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยการลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: PM ช่วยให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  • ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง: PM ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง โดยการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และลดความจำเป็นในการซ่อมแซมใหญ่
  • เพิ่มความปลอดภัย: PM ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจก่อให้เกิดอันตราย

ตัวอย่าง PM สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล

  • การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองต่างๆ ตามระยะเวลา
  • การตรวจสอบและทำความสะอาดระบบหล่อเย็น
  • การตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่
  • การตรวจสอบระบบเชื้อเพลิง
  • การทดสอบการทำงานของเครื่องกำเนิ ดไฟฟ้าด้วย Load Bank

การทำ PM อย่างสม่ำเสมอ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

6. ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต

คู่มือผู้ผลิต มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล เช่น  

  • การติดตั้ง: คู่มือระบุมาตรฐานการติดตั้ง เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน
  • ชนิดของเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น: การใช้เชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสม ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
  • รอบการบำรุงรักษา: การบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนด ช่วยป้องกันปัญหา และยืดอายุการใช้งาน

7. ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม

ตำแหน่งการติดตั้งมีผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ควรเลือกตำแหน่งที่  

  • มีอากาศถ่ายเทสะดวก: ช่วยระบายความร้อน และป้องกันการสะสมของความชื้น
  • ห่างจากสิ่งกีดขวาง: เช่น ประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศ เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการระบายอากาศ และการบำรุงรักษา
  • มีการป้องกัน: เช่น การติดตั้งตู้ครอบ (Canopy) เพื่อป้องกันฝุ่น น้ำ และความชื้น
  • คำนึงถึงความปลอดภัย: เช่น ระบบระบายอากาศ และท่อไอเสีย สำหรับการติดตั้งภายในอาคาร

8. ดูแลระบบกรองอากาศและคุณภาพอากาศ

ไส้กรองอากาศที่สะอาด ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การเปลี่ยนไส้กรอง: ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศตามระยะเวลาที่กำหนด
  • การทำความสะอาด: ควรทำความสะอาดพื้นที่รอบ ๆ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อลดฝุ่น 

สรุป

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลเป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับธุรกิจ การดูแลรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ทั้งการตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง การเลือกใช้ของเหลวคุณภาพสูง การทำ PM และการปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้ผลิตล้วนมีบทบาทสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าค่ะ

เมื่อคุณเลือกซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล GENPACK กับเรา ไทยรวมเทคมอบบริการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (PM) ทุก ๆ 3 เดือน เป็นระยะเวลา 1 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

บริการ PM ของเราครอบคลุมการตรวจสอบระดับน้ำมัน น้ำยาหล่อเย็น การทำความสะอาดระบบ และการตรวจเช็กชิ้นส่วนสำคัญโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของคุณจะพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์

ติดต่อไทยรวมเทคได้ทาง Line Official: @275fjnon หรือโทร 065-539-6496 เพื่อปรึกษาฟรีกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณค่ะ

แชร์ :

บทความที่น่าสนใจ

คู่มือการเลือกซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตั้งแต่กำลังไฟจนถึงบริการหลังการขาย

คู่มือการเลือกซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ตั้งแต่กำลังไฟจนถึงบริการหลังการขาย

การซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นการลงทุนระยะยาวที่มีผลการดำเนินงานและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในองค์กร นี่คือคู่มือที่ช่วยให้คุณเลือกซื้อได้เหมาะสมกับความต้องการ

Read More »
ขนาดเครื่องปั่นไฟสำคัญไฉน? วิธีคำนวณและเลือกขนาดให้ตรงกับความต้องการ

ขนาดเครื่องปั่นไฟสำคัญไฉน? วิธีคำนวณและเลือกขนาดให้ตรงกับความต้องการ

บทความนี้ ไทยรวมเทคจะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงความสำคัญของขนาดเครื่องปั่นไฟ หรือ “กำลัง” อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการคำนวณและเลือกขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของคุณ เพื่อให้คุณสามารถเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ

Read More »
วิธีการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับงานอีเวนต์-สถานบันเทิง

วิธีการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับงานอีเวนต์-สถานบันเทิง

ในบทความนี้ ไทยรวมเทคจะพาคุณสำรวจวิธีการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับงานอีเวนต์-สถานบันเทิง พร้อมเจาะลึกถึงประเภท ขนาด และปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า งานของคุณจะไม่สะดุดและดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

Read More »